วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ลัทธิเซอร์เลียลลิสม์

ลัทธิเซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism) 
          ความเจริญด้านความคิด ทางลัทธิของศิลปะมีส่วนให้อิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ และศิลปศึกษา เป็นอันมาก ดังเช่น ลัทธิเซอร์เรียลลิสม์ ของกลุ่มศิลปินสมัยใหม่อีกกลุ่มหนึ่ง
          Surrealism เริ่มขึ้นตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ในประเทศฝรั่งเศส  มีรูปแบบรากฐานมาจากกลุ่มดาด้า (Dada) โดยนักทฤษฎีหลักประจำกลุ่มก็คือ อองเดร เบรตง
          ศิลปะแนวเซอเรียลิสม์ มีความหมายว่า เหนือความจริง เพราะศิลปะแนวนี้ถ่ายทอดเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในความฝันออกมา ว่ากันว่า ความฝันนั้นเป็นสิ่งที่จริงแท้เสียยิ่งกว่าความจริง เป็นสุดยอดของความเป็นจริง เซอเรียลิสม์ได้วิวัฒนาการมาจากพวกดาดาอิสม์ในเรื่องราวของการมองความจริงอันพิสดาร ศิลปินมองเห็นว่าโลกความเป็นจริงที่เห็นอยู่เป็นภาพมายา นี่เป็นการเคลื่อนไหวของศิลปะแบบหนึ่ง ที่มีความคิดพ้องตามทฤษฎีของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ ที่ว่า มนุษย์ทุกคนอยู่ภายใต้อิทธิพลของจิตไร้สำนึก ซึ่งเราฝังความอยากอันมิได้ขัดเกลาเอาไว้ จนเกิดทำให้รู้สึกว่าความป่าเถื่อนยังมิได้หายไปจากมนุษย์ หากแต่หลบอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ
          ศิลปินกลุ่มนี้กล่าวว่า ความรู้สึกของมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าท่านรู้สึกอย่างไร จงแสดงออกทันที อย่าสกัดกั้นเอาไว้ เพราะมันจะฝังอยู่ใต้จิตสำนึก และจะเป็นอันตรายต่อตัวท่านเอง จากคำกล่าวของลัทธินี้ ทำให้ทราบว่าลัทธินี้เกี่ยวข้องกับจิตไร้สำนึก ซึ่งเป็นระยะพอดีกับที่นายแพทย์ ซิกมันด์ ฟรอย์ (1856-1934) ประกาศทฤษฎีด้านจิตวิทยาอยู่ในยุโรปพอดี นับว่า    ซิกมันด์ ฟรอย์ มีส่วนช่วยให้ลัทธิเซอร์เรียลลิสม์ มีอิทธิพลต่อวงการมาก
          งานเซอเรียลิสม์มีความสำคัญอยู่ที่ การแสดงออกของจิตใต้สำนึกอย่างอิสระ- ปราศจากการควบคุมของเหตุผล มีความฝันและอารมณ์ จินตนาการ ค่อนข้างโน้มเอียงไปในทางกามวิสัย หลักการของเซอเรียลิสม์คือ จินตนาการเป็นส่วนสำคัญของการแสดงออก จินตนาการคือจิตไร้สำนึก และจิตไร้สำนึกเป็นภาวะของความฝัน ที่มีขบวนการต่อเนื่องกันซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์งานศิลปะได้ สิ่งที่เราเห็นจากโลกภายนอกขณะตื่น เป็นเพียงปรากฎการทางการแทรกแซงความงามของพวกเขาคือความมหัศจรรย์ ความมหัศจรรย์เพียงอย่างเดียวที่สามารถสร้างศิลปะให้สมบูรณ์ได้ และยังให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความหมายต่อความรู้สึกของมนุษย์ 

ลัทธิเซอร์เรียลลิสม์ มีลักษณะในการแสดงออกทางศิลปะสองด้าน คือ

ก. ด้านเรื่องราว 
1. เป็นเรื่องราวในอดีตมีความหมายต่อศิลปิน เช่น ความผิดหวัง ความรัก ความหยิ่งผยอง ความกลัว
2. เป็นเรี่องราวที่เกี่ยวข้องกับคนอื่น การแนะนำสั่งสอนในทางลบ คล้ายกับกลุ่มดาดา

ข. ด้านรูปทรงและวิธีการ
1. ศิลปินแสดงออกด้วยสีที่มีความเข้มปานกลาง ให้ความรู้สึกนุ่มนวลบนผิวหน้า ด้วยการเกลี่ยให้กลมกลืน
2. ศิลปินแสดงออกด้วยวัสดุอื่น ปนกับวัสดุที่ศิลปินผู้นั้นถนัด เช่น ทรายปนกับสีน้ำมัน กระดาษสีปนกับสีน้ำมัน
3. ศิลปินพยายามจะซ่อมสิ่งที่ต้องการแสดงออกด้วยเทคนิคของการเขียน เช่น เขียนวัตถุบนกระจกใส หรือเขียนความชัดเจนของสิ่งของคลุมเรื่องที่ต้องการแสดง
4. ศิลปินพยายามสร้างสรรค์ แสง เงา และสีขึ้นเอง

ศิลปินในกลุ่มคือ
ซันวาดอ ดาลี (Salvador Dali) เขียนภาพประท้วงของสังคม ชื่อ Premonition of Civil war แสดงบรรยากาศของความหวาดกลัวด้วยรูปน่าเกลียด น่ากลัว อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียง คือ ภาพนาฬิกาเหลว
มาร์ค ชากัลป์ (Mare Chagall)
เชอร์ริโก (Giogio de Chirico)
พอล ดวี (Paul Klee)
มาเซล คูชามพ์ (Mareel Duchamp)
  
          Salvador Dali ซัลบาดอร์ ดาลี
          Premonition of Civil War เป็นจิตรกรชาวสเปน ภาพนี้แสดงบรรยากาศของความหวาดกลัว ด้วยรูปอมนุษย์น่าเกลียด และโทนสีหม่นหมอง
The Persistence of Memory  วาดขึ้นจากความฝันในฤดูร้อน แสดงถึงจินตนาการอันประหลาดล้ำ และกลายเป็นเอกลักษณ์ของเขาในเวลาต่อมา

          Marc Chagall มาร์ค ชากัล
          The Birthday  เป็นภาพที่แสดงให้เห็นวันแห่งความสุข เขาเขียนขึ้นด้วยความรู้สึกที่มิได้ยึดติดอยู่กับแบบแผนของลัทธิศิลปะใด แต่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของเขาเองคือ เขียนตามความรู้สึกนึกฝันที่อยากจะเขียน I and the Village ภาพนี้วาดตอนที่เขาได้ไปพักอยู่ที่ฝรั่งเศสกับครอบครัวก่อนเสียชีวิต

          Giorgio de Chirico (เด ชิริโค)
          เขามักเขียนภาพที่แสดงให้เห็นถึงเมืองร้างที่มีขนาดใหญ่ลึกลับ โดยมักใช้สีที่ขุ่นหมองแสดงถึงความเศร้า นอกจากนี้ยังมีการนำส่วนประกอบต่างๆที่ไม่เกี่ยวของกันในภาพมาจัดวางเพื่อให้เกิดความสงสัยและความลึกลับ ผลงานที่มีชื่อเสียงก็คือ ผลงานที่มีชื่อว่า The Song of Love

          Paul Klee (พอล คลี) 
          เป็นจิตรกรชาวสวิสเซอแลนด์ ที่วาดทั้งภาพสีน้ำ สีน้ำมัน และภาพลายเส้น ถือว่าเป็นมาสเตอร์แห่งภาพวาดสมัยใหม่ที่  สร้างสรรค์งานของตัวเองตามความคิด ฝัน ตามไหวพริบ และจินตนาการของตัวเอง ผลงานที่มีชื่อเสียงของเขา คือ Head of a Man และยังมีศิลปินอีกหลายคนนะคะ เช่น max Ernst (แม็กซ์ เอิร์น) อัลแบร์โต







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น